ความรู้ บทความ ตอบคำถาม เกี่ยวกับรอยสัก ฟรี

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ค่านิยมหรอ? ตลกว่ะ

ไม่มีความคิดเห็น :

               ในสังคมไทยทุกวันนี้ คนที่มีรอยสักยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันทางสังคมอยู่เรื่อยมา ว่าต้องถูกตัดสิทธิ์ในทางสังคมต่างๆนาๆ อาทิเช่น อาชีพบางอาชีพที่ไม่เปิดรับคนมีรอยสัก หรือเวลาเดินทางออกต่างประเทศ ก็มักจะถูกกักตัวไว้เป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยเพื่อซักถามประวัติและเหตุผลในการเดินทางเป็นอันดับแรกเสมอ หรือในชีวิตประจำวันเวลาคุณเดินผ่านคนมีรอยสักเต็มตัว ก็คงอดไม่ได้ที่จะจับกระเป๋าของตัวเองไว้ให้แน่นไม่ห่างกาย....แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เราเข้าใจพวกคุณได้ เราเข้าใจว่าคุณรู้สึกอะไรกันอยู่ สังคมไม่ผิดเลย เป็นเรื่องที่เข้าใจได้.....หากแต่เพียงแค่ เราต้องการให้คุณเข้าใจเราบ้าง 

              ต่อไปนี้ จะเป็นบทความกระตุกปัญญา สะท้อนปัญหา และการตั้งคำถามเกี่ยวกับสังคมรอยสัก กับสังคมปกติ ว่าควรอยู่ร่วมกันอย่างไร หากพร้อมเปิดใจ บรรทัดต่อไปรออยู่แล้ว


             ค่านิยมหรอ? ตลกว่ะ ใครเป็นคนกำหนดอะไรพวกนี้ขึ้นมา หรือทุกคนพร้อมเพรียงกันเห็นดีเห็นงาม ?

             เราเกิดมาพร้อมกับ "ค่านิยม" บางอย่างที่เราไม่เคยแม้แต่จะ "กล้า" ตั้งคำถาม ว่าสิ่งเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร จุดประสงค์ของมันคืออะไร "ค่านิยม" เหล่านั้นมันมี "คำนิยาม" อยู่เสมอ บ้างก็บอกความหมาย บ้างก็เป็นกฎเกณฑ์ บ้างก็เป็นคำสั่ง 

               ค่านิยมว่า คนมีรอยสักมันเป็นโจร มันเป็นคนคุก หากเราสืบค้นข้อมูลกันจริงๆเนี่ย แนวคิดนี้มันล้าหลังมาก มันไม่ใช่ยุคที่ต้องมีรอยสักเพื่อบ่งบอก กรมกองสังกัดทางทหาร หรือบ่งบอกว่าก่อคดีอะไรมาอีกต่อไป รอยสักยุคนี้กลายเป็นศิลปะไปแล้ว หากแต่ค่านิยมเดิม ก็ยังไม่ออกไปจากสังคมไทย เนื่องจากการผลิตซ้ำต่างๆนาๆ ปากต่อปากอย่างไม่รู้จบ


                    โลกปัจจุบันหมุนไปไวมาก หากไม่ปรับตัว ปรับแนวคิด เราจะกลายเป็นประเทศล้าหลังไปในที่สุด หรือแม้แต่คนที่มีรอยสักเอง บางทีก็ไม่เคยที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นอยู่ว่า ทำไมสังคมต้องปลูกฝังแบบนี้ แล้วเราเรียกร้องอะไรได้บ้าง?

                     หรือ มันเป็นเพราะคนกลุ่มหนึ่ง "ยัดเยียด" บางสิ่งให้เราคิดตาม? เราพึงพอใจ (นิยม) กับคำนิยามรอยสักแย่ๆนั้นจริงๆหรือเปล่า ?
 

                 ถามตัวเองดูนะ "เราหลุดออกจากค่านิยมแย่ๆจากใครสักคนที่นิยามให้เราหรือยัง ?"

                ปล. บทความนี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นกระบอกเสียง เพราะเราคิดแค่ว่า หากเราไม่ทำ ก็ไม่มีใครทำ กลุ่มอำนาจในสังคมต่างๆเห็นแก่ตัวกันหมด ไม่มีใครสนใจประเด็นเหล่านี้ แต่พวกเราสนใจ ตอนนี้เราว่าเรายังพอไหว เราก็จะทำแบบนี้ต่อไป...พบกันบทความหน้านะ.....


ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

ผู้เข้าชม